SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization หมายถึงวิธีการปรับแต่งโครงสร้างหน้าตาเว็บไซต์ การปรับแต่งโค๊ด ปรับแต่งความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์ และการเขียนเนื้อหาให้เป็นไปตามความต้องการของ เว็บ Search Engine เช่น เว็บ Google, Bing เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์ปรับแต่งเว็บไซต์ของการทำ SEO จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับอยู่ในลำดับต้นๆ ของผลการค้นหา ด้วยคีย์เวิร์ด (Keyword)
ปัจจัยในการทำ SEO นั้นมี 7 ข้อหลักดังต่อไปนี้
- โฮสติ้งหรือที่ๆ เราใช้ฝากเว็บไซต์ของเรา
- ชื่อเว็บไซต์หรือโดเมนเนม
- Title หรือชื่อจำกัดความของหน้าเว็บไซต์
- Description หรือคำอธิบายของหน้าเว็บไซต์
- Keyword หรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
- Content หรือเนื้อหาของเว็บไซต์
- ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
เพื่อให้เว็บไซต์ของเราได้รับการจัดลำดับ ในอันดับที่ดีขึ้น (ยิ่งเป็นอันดับที่ 1 ใน Keyword นั้น ๆ ด้วยยิ่งดี) เพื่อให้มีคนได้มีโอกาสเข้าเว็บเรามากขึ้นโดยการคลิกที่ลิงค์จากการค้นหาผ่าน Search Engine เพื่อเป็นการประหยัดค่าโฆษณาเว็บไซต์ของเรา ที่ไปติดโฆษณาในที่ต่าง ๆ เพื่อทำให้เว็บไซต์เราสามารถขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น (อันนี้เหมาะกับเว็บ e-Commerce และ e-Marketing ต่าง ๆ ) เพราะการค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine มีคนใช้ถึง 81% เราต้องทำให้คนรู้จัก เราให้ได้มากที่สุด การทำ SEO เป็นการประหยัดเวลาระยะยาว (แต่ใช้เวลาทำนานไม่น้อยกว่า 6 เดือน) ถ้าคุณติดลำดับต้น ๆ ในหน้าแรกแล้วจะทำให้เกิดการคลิกและเข้าเว็บเรามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ SEO มีอะไรบ้าง
- สามารถทำให้ได้กลุ่มลูกค้าที่ตรงตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้
- สามารถโปรโมทเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของท่าน
- ทำให้เว็บไซต์ของท่านติดอันดับบนเว็บเสิร์ชเอ็นจินได้
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเมื่อเทียบกับการโฆษณาประเภทอื่นๆ
- ทำให้เว็บไซต์ของคุณง่ายต่อการค้นหาบนเว็บเสิร์ชเอ็นจิน